นายเกษม ยวงสวัสดิ์ ผู้จัดการนาแปลงใหญ่คลองอุดมชลจร เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของกลุ่มนาแปลงใหญ่คลองอุดมชลจรว่า เกิดจากการที่เกษตรกรพูดคุยถึงปัญหาในการทำนา จึงเกิดความคิดว่าจะนำการดำนาในอดีต คือการเพาะกล้ามาดำ เพื่อจัดการปัญหาต่างๆ จึงรวมตัวกันเพื่อศึกษาวิธีดำนา โดยเริ่มต้นมีสมาชิก 11 ราย เริ่มจากหาวิธีเพาะกล้า หลังจากนั้นรวมเงินกันซื้อรถดำนามือสองจากญี่ปุ่น ผลผลิตในครั้งนั้นปริมาณข้าวได้เท่าเดิม แต่มีพันธุ์ปนลดลง ต้นทุนลดลง หลังจากนั้นมีหน่วยงานต่างๆ มาให้การสนับสนุนมากขึ้นกลุ่ม จึงมีความคิดเห็นร่วมกันที่จะ จัดตั้งเป็นศูนย์ข้าวชุมชน โดยการสนับสนุนจากการกรมการข้าวและหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งในเรื่องของปัจจัยการผลิต เทคโนโลยีการผลิต และองค์ความรู้ การบริหารจัดการที่ดี โดยกลุ่มจะเน้นความพอเพียงซึ่งปัจจุบันสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ภายในกลุ่มได้ เพื่อให้กลุ่มมีเมล็ดพันธุ์ใหม่ๆ คุณภาพดี ต้นทุนต่ำเนื่องจากผลิตได้เอง
ปัจจุบันกลุ่มนาแปลงใหญ่คลองอุดมชลจร มีสมาชิก 91 รายพื้นที่ 2,392 ไร่ ปลูกข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1 กข57 เป็นส่วนใหญ่ ที่เหลือส่วนน้อยปลูกข้าวพันธุ์พิษณุโลก2 กข43 กข49 กลุ่มมีการนำข้าวมาแปรรูปเป็นข้าวสารโดยใช้โรงสีชุมชนของกลุ่ม แพ็คถุงจำหน่ายขนาด 1 กิโลกรัม จำหน่ายให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ และส่งตลาดสุวินทวงศ์ ตลาดบ้านใหม่ และพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปรับไปขายต่อ กลุ่มมีการผลิตข้าวคุณภาพดี ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวจำหน่ายให้เกษตรกรในพื้นที่และนอกพื้นที่
นางสาววันรียา บุญสัน นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยข้าวฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ศูนย์วิจัยข้าวฉะเชิงเทราได้เข้ามาส่งเสริมให้ความรู้ในการผลิตเมล็ดพันธุ์ และการผลิตข้าวมาตรฐานGAP สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ตีให้กับเกษตรกรไว้ใช้ทำพันธุ์และขยายพันธุ์ เพื่อที่กลุ่มจะได้มีเมล็ดพันธุ์ดีมีคุณภาพ รวมทั้งมีนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิต ได้แก่ การปักดำโดยใช้รถปักดำ การหว่านข้าวโดยเครื่องหว่านข้าวงอก มีการใช้เครื่องคัดทำความสะอาดเมล็ดพันธุ์ เพื่อให้ได้มาซึ่งเมล็ดพันธุ์ที่ดี มีคุณภาพ เกษตรกรมีความรู้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากการที่ได้ใช้เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ เทคโนโลยีที่ทันสมัย และได้รับองค์ความรู้ที่ได้จากการอบรมทำให้ผลผลิตดีมีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด มีผลผลิตเพิ่มขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงข้าวมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของโรงสี ตลอดจนเกษตรกรมีสุขภาพที่ดี นอกจากนี้ยังมีการอบรมให้ความรู้เกษตรกรใช้สารชีวภัณฑ์ หรือน้ำหมักมาทดแทนสารเคมี
สำหรับความเข้มแข็งของกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่คลองอุดมชลจร มีการรวมตัวกันอย่างเข้มแข็งและมีลุงเกษมเป็นผู้นำชาวบ้าน ในการคิดหาวิธีแก้ปัญหาในการปลูกข้าว ให้มีความสมบูรณ์ ของทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับการปลูกข้าว ได้แก่ ดินที่มีความเหมาะสมกับการเพาะปลูกและน้ำที่เพียงพอต่อการเพาะปลูกตลอดฤดูกาล มีองค์ความรู้ในการผลิตเมล็ดพันธุ์ให้มีคุณภาพ และลดต้นทุนต่ำเพื่อใช้ในกลุ่มและเกษตรกรนอกพื้นที่ ทั้งนี้ยังมีโรงสีชุมชนเพื่อแปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้า และเชื่อมโยงกับโรงสีขนาดใหญ่ภายในจังหวัดอีกด้วย
"อุดม" - Google News
August 31, 2020 at 11:28PM
https://ift.tt/34MzzHa
นาแปลงใหญ่คลองอุดมชลจร ฝ่าวิกฤตการทำนาไม่ได้คุณภาพในอดีต สู่การผลิตเมล็ดพันธุ์ดี - สยามรัฐ
"อุดม" - Google News
https://ift.tt/2Xo0GUN
No comments:
Post a Comment